การพิจารณาเลือกซื้อ เครื่อง Packing, เครื่อง Seal, เครื่องบรรจุ ที่ดี?

จะซื้อเครื่อง Packing เครื่อง Seal เครื่องบรรจุ จะพิจารณาอย่างไร ?

   

การซื้อเครื่องจักรในงานบรรจุภัณฑ์ นั้นเป็นการลงทุนที่ผู้ลงทุนต้องพิจารณา และดำเนินด้วยความรอบคอบ มิฉะนั้นอาจจะเสียเงินลงทุนไปหลายแสน แต่แทนที่จะได้กำไรหลายสิบเท่า แต่อาจจะได้เงินคืนไม่คุ้มค่าลงทุน กรอบการดำเนินงาน ควรจะพิจารณาดังนี้

1. พิจารณาผลที่จะได้รับคืนจากการลงทุนครั้งนี้ เช่น ซื้อเครื่อง Packing , เครื่อง Seal ครั้งนี้ สามารถทำให้ทำงานได้เท่ากับคนกี่คนในเวลาเท่ากัน ค่าจ้างคนที่ต้องจ้างเพิ่มจำนวนนั้น เป็นเงินปีละเท่าไร นั่นล่ะเป็นเงินที่ประหยัดได้ต่อไป เมื่อนำมาเทียบกับเงินลงทุนก็จะรู้ว่าได้ จุดคุ้มทุนนั้นเป็นเวลากี่เดือน

  เช่น เครื่องบรรจุกาแฟใส่ซองแล้ว Seal ด้วยความร้อน ได้ซองนาทีละ 40 ซอง ทำงานกะละ 8 ช.ม. รวมวันละ 3 กะจะได้ 40 x 60 นาที x 8 ช.ม. x 3 กะ = 57,600 ซองต่อวัน โดยใช้คนกะละ 1 คน แต่ถ้าใช้คนทำล้วนๆด้วยเครื่อง Seal มือกด หรือเครื่องซีลเท้าเยียบจะทำได้คนละ 600 ซองต่อชั่วโมงดังนั้น คนหนึ่งคนทำงานได้ 1 กะ ( 8 ช.ม. ) ได้ 4,800 ซองต่อกะ ถ้าจะทำให้ได้ 57,600 ซองต้องใช้คนเท่ากับ 57,600 % 4,800 = 12 คน โดยทำกะละ 4 คน ซึ่งใช้คนมากกว่าเครื่องจักร 3 คนต่อกะหรือใช้มากกว่าวันละ 9 คน ค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท จึงใช้ค่าจ้างมากกว่าเงินลงทุนซื้อเครื่องบรรจุกาแฟ 1 เครื่องคือ 180,000 บาทจุดคุ้มทุนคือ 180,000 บาท % 2,700 บาทต่อวัน = 67 วัน
สรุป ถ้าใช้เครื่องบรรจุช่วยแทนที่จ้างคนเพิ่มแล้วใช้แรงงานคน เงินที่ลงทุนไปซื้อเครื่องฯ 180,000 บาทจะได้คืนภายใน 67 วัน และทุก 67 วันต่อๆมาจะได้เงิน (ไม่ต้องจ้างคนงาน) 180,000 บาททุกครั้งต่อตลอดไป ซึ่งเครื่องจักรมีอายุการใช้งานเกิน 10 ปีขึ้นไป ดังนั้น ตลอดอายุการใช้งานขัยของเครื่อง จะได้กำไรเพิ่มจากการใช้เครื่องบรรจุแทนใช้คุณอย่างเดียวถึง 7 ล้านเก้าแสนบาทบาท

2. จะซื้อเครื่องจักรที่ไหนดี?

• ควรค้นหาชื่อผู้ขายจากสมุดโทรศัพท์ ซึ่งช้ากว่าค้นในอินเตอร์เน็ต
• ควรคิดคำที่จะใช้ค้นหา ( Key Word ) ไว้ก่อนในกรณีนี้คำ Key Word ที่เหมาะสมคือ
  - เครื่องบรรจุ
  - เครื่อง Seal
  - เครื่อง Packing

ไม่ควรใช้คำภาษาอังกฤษล้วน เพราะจะไม่จำกัดประเทศไทยอย่างเดียวทำให้ยุ่งยากในการเลือกดู และหาแหล่งซื้อในกรณีนี้ การที่มีคำว่า “ เครื่อง Seal เครื่อง Packing ” ทำให้บังดับให้หาในประเทศไทยเท่านั้น
เมื่อ google ช่วยหาแหล่งซื้อแล้วท่านควรเลือกบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่เหมาะสม

• บริษัทฯที่ขายควรมีสถานประกอบการที่น่าเชื่อถือ มั่นคง ถ้าเป็นเจ้าของอาคารเองก็ยิ่งน่าเชื่อถือ ทั้งนี้เพื่อจะได้มั่นใจบริษัทฯยังคงอยู่ และมีความมั่นคงอย่างยาวนาน เพราะท่านยังต้องการ บริการหลังการขายจากผู้ขายตลอดอายุขัย เป็นเวลากว่าสิบปีหลังจากการซื้อ

3.บริการหลังการขาย มีความจำเป็นที่ท่านต้องได้รับบริการหลังการขายที่ดี การลงทุนที่ดีไม่ควรมุ่งพิจารณาราคาถูกเพียงอย่างเดียวยิ่งราคาที่แตกต่าง ถูกกว่าผู้ขายทั่วไปมาก ผู้ลงทุนที่ดีควรตัดออกจากการพิจารณา ถ้าผู้ขายไม่มีเหตุผลที่ดี เช่นเดียวกันราคาที่แพงกว่าคนอื่นมากๆ ควรตัดออก

  ควรพิจารณาถึงจำนวนคน และคุณภาพของการให้บริการหลังการขาย การไปดูสถานที่ประกอบการของผู้ขายจึงมีความสำคัญนอกจากจะพิจารณาบริการหลังการขายแล้ว ควรเอาสินค้าไปทดลองกับเครื่องของผู้ขายก่อนตัดสินใจซื้อ

4.ทดลองเอาสินค้าไปทดลองที่ห้องโชว์สินค้าของผู้ขาย เพื่อดูการทำงานของเครื่องฯว่าเดินได้ราบเรียบไหม อย่าลืมชั่งหนักสินค้าที่ Pack เสร็จแล้วด้วยเพื่อตรวจสอบการบรรจุสินค้าน้ำหนัก แต่ละชิ้นควรมี Sheet จดน้ำหนักของทุกซองค่าควรใกล้เดียวกันจึงจะดี

• ดูศูนย์ของเครื่องว่าไม่เสียศูนย์ โดยดูการหมุนไม่มีการแกว่ง
• ดูอุปกรณ์การควบคุม ปัจจุบันใช้เครื่องอีเลคโทรนิคส์หมดแล้ว เช่นใช้ PLC เครื่องควบคุมอุณหภูมิ อุณหภูมิขณะเดินเครื่องตามสปีด อุณหภูมิควรจะนิ่งเพื่อให้การซีลซองพลาสติกติดแน่นสนิทไม่มีการรั่วระหว่างขนส่งก่อนลูกค้าบริโภค

"ระวังผู้ขายที่บริการก่อนขายดี แต่ไม่มีการบริการหลังการขาย"