การคำนวณการรับน้ำหนักของรถ Forklift
การคำนวณการรับน้ำหนักของรถ Forklift
หลายท่านอาจสงสัยว่าในการใช้โฟร์คลิฟท์ยกของ เราจะทราบได้อย่างไรว่า FORKLIFT สามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้ เมื่อยกไปแล้วรถจะไม่หน้าทิ่ม เรามาดูตัวอย่างการคำนวณกันคะ
ในการคำนวณความสามารถในการยกของรถ FORKLIFT นั้นเราต้องรู้ข้อมูล 2 ส่วน คือ ในส่วนของรถ FORKLIFT และ สิ่งของที่จะยก ข้อมูลของวัตถุที่จะยก เราต้องทราบน้ำหนักของวัตถุ และ ระยะจากขอบข้างใดข้างหนึ่งไปยังจุดศูนย์ถ่วงของวัตถุ สำหรับข้อมูลของรถ FORKLIFT เราสามารถดูได้จากแผ่นเพลทที่ติดอยู่ที่ FORKLIFT ได้เลยคะ สามารถดูตามรูปตัวอย่างในภาพข้างล่างนี้ได้คะ
แผ่นเพลทจะบอกข้อมูลที่เราต้องใช้ ดังนี้
- ประเภทของรถ FORKLIFT เป็นแบบใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง (G / LP)
- ในการรับน้ำหนัก คือ 5000 ปอนด์ (LB)
- ระยะห่างจากจุดที่รับน้ำหนักของ FORKLIFT (บริเวณหน้ารถ) ไปยังจุดศูนย์กลางในการรับน้ำหนักบรรทุก(กลางงา ที่ใช้ยก) คือ 24 นิ้ว ความสูงในการยก คือ 173 นิ้ว
จากภาพ รถโฟร์คลิฟท์กำลังยกของ หนัก 4000 ปอนด์ ซึ่งสิ่งของที่ยกมีระยะจากขอบถึงจุดศูนย์กลางที่สมดุล 18 นิ้ว ส่วนรถ FORKLIFT ใช้ ค่าจากภาพด้านบน คือ รับน้ำหนักบรรทุกได้ 5000 ปอนด์ มีระยะจากจุดที่รับน้ำหนักของ FORKLIFT (บริเวณหน้ารถ) ไปยังจุดศูนย์กลางในการรับน้ำหนักบรรทุก (กลางงา ที่ใช้ยก) คือ 24 นิ้ว
เราสามารถคำนวณแรงที่มากระทำในการยก ที่เรียกว่า โมเมนต์ ได้ดังนี้
- โมเมนต์ ของ รถ FORKLIFT = (24 นิ้ว x 5000 ปอนด์) = 120,000 นิ้ว-ปอนด์
- โมเมนต์ ของ วัตถุที่ยก = (18 นิ้ว x 4000 ปอนด์) = 72,000 นิ้ว-ปอนด์
จากการคำนวณข้างต้น พบว่ารถ FORKLIFT สามารถยกวัตถุนี้ได้อย่างปลอดภัย เพราะโมเมนต์ที่โฟล์คลิฟท์สามารถรับน้ำหนักได้ มีค่ามากกว่าโมเมนต์ของวัตถุที่ยก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าวัตถุที่ยกจะมีน้ำหนักเท่ากัน แต่ถ้าของที่ยกมีความกว้างมากขึ้น รถ FORKLIFT ก็อาจจะไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างปลอดภัย เช่น สมมุติว่าวัตถุที่ยกมีความกว้าง 66 นิ้ว ซึ่งระยะจากขอบถึงจุดศูนย์กลางที่สมดุลก็จะเป็น 33 นิ้ว เมื่อคำนวณโมเมนต์ออกมา ก็จะเป็น (33 นิ้ว x 4000 ปอนด์) = 132,000 นิ้ว-ปอนด์ เป็นค่ามากกว่าโมเมนต์ที่รับได้ของ FORKLIFT
ดังนั้น พึงระลึกไว้เสมอว่า ของที่หนักเท่ากัน แต่ขนาดไม่เท่ากัน FORKLIFT ไม่สามารถบรรทุกได้เหมือนกัน
ประเด็นถัดมาที่ควรจะให้ความสำคัญคือ เมื่อ FORKLIFT ยกงาตักขึ้นสูง จะส่งผลให้จุดรับน้ำหนักของ FORKLIFT ขยับไปด้านหน้า นั่นหมายความว่า ระยะจากจุดที่รับน้ำหนักของ FORKLIFT (บริเวณหน้ารถ) ไปยังจุดศูนย์กลางในการรับน้ำหนักบรรทุก (กลางงา ที่ใช้ยก) จะมีค่าลดน้อยลง (ตามตัวอย่างด้านบน คือ ค่าที่มีตัวเลขเท่ากับ 24 นิ้ว แต่ถ้ายกงาสูงขึ้น ค่าตรงนี้จะลดน้อยลง ความสามารถในการยกก็จะน้อยลง)
นอกจากการยกงาขึ้นสูงจะทำให้จุดศูนย์ถ่วงการรับน้ำหนักของ FORKLIFT เปลี่ยนไปแล้ว ยังมีประเด็นอื่น เช่น
- วัตถุที่ยกเลื่อนไปที่ปลายงาของ FORKLIFT (อาจจะวางสิ่งของไม่ดีตั้งแต่แรก หรือ สิ่งของเคลื่อนขณะยก)
- วัตถุที่ยก เอียง ไม่สมดุล
- การขับรถบนพื้นที่ลาดเอียง
- การเลี้ยว
- อื่นๆ
จากภาพด้านบน จะเห็นถึงจุดน้ำหนักที่สมดุลของโฟล์คลิฟท์ที่เปลี่ยนไปได้เข้าใจง่ายขึ้น
ที่มา www.thaisafetywork.com